คำแนะนำนักท่องเที่ยวสำหรับการเดินทางไป สเปน ภาพรวมความปลอดภัย และความมั่นคง ภัยจากการก่อการร้าย
สเปน เป็นประเทศยุโรปแห่งเดียว ที่ยังมีกลุ่มก่อการร้ายที่ยังไม่ยอมวางอาวุธ ได้แก่ กลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนบาสก์ หรือ ETA ซึ่ง ก่อการวินาศกรรมด้วยการวางระเบิด และฆาตกรรมสังหารเจ้าหน้าที่ ทางการและพลเรือนในสเปน โดยหนล่าสุดได้แก่ เมื่อเดือนมิถุนายน 2552 อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ในขณะนี้ กลุ่ม ETA ได้ประกาศหยุดยิง แต่ยังคงมีความเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลสเปนอยู่บ่อยครั้ง และกลุ่ม ETA ยังไม่ประกาศว่าจะยอมวางอาวุธ
การประท้วง/นัดหยุดงาน
ขณะนี้ สเปน ประสบกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ เกิดสภาวะปัญหาข้าวยากหมากแพง จึงมีการนัดหยุดงาน และชุมนุมประท้วงรัฐบาลบ่อยครั้ง การนัดหยุดงานของกลุ่มแรงงานต่างๆ ในสเปนส่วนใหญ่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยสถานภาพแรงงานของสเปน (Ley de Estatuto de los Trabajadores) ซึ่งมีระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดที่แน่นอน อย่างไรก็ตาม ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจสเปนได้ทวีความรุนแรงขึ้นมาก จึงมีการนัดหยุดงานที่ไม่เป็น ไปตามกฎหมายแรงงานสเปนด้วย อาทิ การนัดหยุดงานของกลุ่มพนักงานหอบังคับการบิน โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า (wild cat trike) เพื่อเรียกร้องสิทธิด้านแรงงาน เมื่อวันที่ 3-4 ธันวาคม 2553 และการชุมนุมประท้วงของกลุ่ม 15 พฤษภา “Mayo 15″ หรือ 15 M (ซึ่งในภายหลังเปลี่ยนชื่อไปอีกหลายครั้งตามเดือนที่จัดประท้วง) กลุ่มผู้ประท้วงนี้เป็นกลุ่มนักศึกษาและคนสเปนที่ตกงานจำนวนมาก ซึ่งชุมนุมตามเมืองใหญ่ของสเปน อาทิ กรุงมาดริด นครบาร์เซโลนา เมืองบิลเบา เมืองเซวิญญา โดยกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงเพื่อเรียกร้องเห็นความเปลี่ยนแปลงในการเมือง สเปน ในปัจจุบัน โดยประท้วงการคอรัปชั่นของนักการเมือง ปัญหาวิกฤตตลาดแรงงาน ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ฯลฯ ทั้งนี้ ได้มีการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงดังกล่าว กับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นของสเปนหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดได้แก่ การปิดล้อมรัฐสภาเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2555 รวมทั้ง ยังมีการชุมนุมประท้วงนัดหยุดงานของกลุ่มคนงานเหมืองแร่ ครูอาจารย์ แพทย์-พยาบาล พนักงานรถไฟใต้ดิน สายการบินแห่งชาติสเปน และกลุ่มข้าราชการภาครัฐ บ่อยครั้งในเมืองใหญ่ อาทิ กรุงมาดริด และนครบาร์เซโลนา
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด จึงขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวใช้ความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงบริเวณการชุมนุม และมีการปิดถนน/พื้นที่การสัญจร ในเมืองใหญ่ทุกเมือง เนื่องจากอาจมีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง กับกองกำลังของตำรวจเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และกองกำลังรักษาความปลอดภัยต่างๆ ได้
นักท่องเที่ยวอาจพิจารณาหลีกเลี่ยงความยุ่งยากของการเดินทางมาถึงสเปน ในวันที่มีการนัดประท้วงหยุดงานของสายการบินหรือรถไฟ หรือการระบบการขนส่งต่างๆ โดยอาจตรวจสอบสถานการณ์ ณ วันเดินทาง กับบริษัทนำเที่ยวหรือสายการบินที่ได้ติดต่อซื้อบัตรโดยสารเครื่องบิน โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2556 สายการบินแห่งชาติสเปน Iberia ได้ประกาศนัดหยุดงานประท้วง ส่งผลให้มีการยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมด และปิดพื้นที่ภายในของอาคารผู้โดยสารขาออก Terminal 4 ของท่าอากาศยานบาราฆัส
การเดินทางเข้า-ออกสเปน
สเปน อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความตกลงด้านการตรวจลงตรา Schengen ดังนั้นหาก นักท่องเที่ยวไทยได้รับการตรวจลงตราประเภท Schengen จากสถานเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกกลุ่มประเทศ Schengen แล้ว ก็สามารถเดินทางมายังสเปนได้โดยตรง โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตราเพิ่มเติม
ไทยกับสเปน มีความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราระหว่างกันสำหรับหนังสือเดินทางประเภทหนังสือเดินทางการทูต ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2554 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางประเภทหนังสือเดินทางราชการและหนังสือเดินทางธรรมดา ท่านยังคงต้องขอรับการตรวจลงตราเข้าสเปน ดังนั้น หากท่านยังไม่ได้รับการตรวจลงตรา Schengen ขอให้ติดต่อสถานเอกอัครราชทูต สเปนประจำประเทศไทย โดยสถานเอกอัครราชทูตสเปนประจำประเทศไทยแจ้งว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ ใช้ระยะเวลาในการพิจารณาตรวจลงตราประมาณ 2-3 สัปดาห์
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ขอเรียนว่า ทางการสเปนให้ความสำคัญและเข้มงวดกับการตรวจลงตรา ดังนั้น หากนักท่องเที่ยวไทยเดินทางมายังสเปนโดยไม่ได้รับการตรวจลงตราที่ถูกต้อง ทางการสเปนจะดำเนินการกักตัวผู้ที่ไม่ได้รับการตรวจลงตราไว้ที่จุดตรวจคน เข้าเมือง และตั้งข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย และเนรเทศ (deport) ผู้ที่ไม่ได้รับการตรวจลงตรากลับไปยังเส้นทางที่เดินทางเข้าสเปน ด้วยเครื่องบิน/รถไฟเที่ยวแรกที่มี ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด จะไม่สามารถช่วยเหลือแก้ไขสถานการณ์ให้ได้ เนื่องจากไทยและสเปนไม่มีความตกลง visa on arrival
Schengen Area
ในกรณีที่ท่านเดินทางมาเปลี่ยนเที่ยวบิน (transit) เพื่อเดินทางต่อไปนอกเขต Schengen แม้ว่าจะเป็นระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแนะนำให้ท่านขอรับการตรวจลงตราแบบ schengen visa multiple entries ด้วย เนื่อง จากหากเกิดเหตุสุดวิัสัย และท่านพลาดเที่ยวบินของท่าน และ/หรือจำเป็นต้องค้างคืนเพื่อรอเที่ยวบินใหม่ และ/หรือสายการบินของท่านไม่ได้ช่วยเหลือจัดหาเที่ยวบินใหม่ให้ท่าน หากท่านไม่ได้รับการตรวจลงตราแบบ schengen visa multiple entries ที่ช่วยให้ท่านเดินทางเข้า-ออก schengen ได้หลายครั้ง ท่านจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากอาคารผู้โดยสารขาเข้าไปยังอาคารอื่นๆ ภายในท่าอากาศยาน เพื่อติดต่อขอรับหรือซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินใหม่ หรือสามารถเดินทางเข้าเมืองเพื่อรับประทานอาหารหรือหาที่พักค้างคืนได้ เนื่องจากทางการสเปน มีกฎระเบียบการตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวดมาก
ทางการสเปนให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติและการฟอกเงิน ดังนั้น การเดินทางออกจากสเปน จึงไม่ควรพกเงินสดติดตัวเกิน 10,000 ยูโร หรือเงินสดหลายสกุลเป็นจำนวนมาก เนื่องจากจะถูกตรวจค้น และหากมีเงินสดในครอบครองเกินกว่า 10,000 ยูโรต่อคน ก็อาจถูกดำเนินคดีได้ นอกจากนี้ ทางการสเปนไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขอภาษีคืน (Vat refund) จากสำนักงานศุลกากรในท่าอากาศยานแล้ว นำสินค้าที่ได้ดำเนินการขอภาษีคืนออกไปนอกบริเวณท่าอากาศยาน โดยหากได้ดำเนินการขอภาษีคืนแล้ว นักท่องเที่ยวจะต้องดำเนินเรื่องขอให้ฝากสินค้าดังกล่าวไว้กับศุลกากรของการท่าอากาศยานสเปน
การซื้อ SIMS โทรศัพท์มือถือ
สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวไทยใช้ความระมัดระวังในการซื้อ SIMS โทรศัพท์มือถือสำหรับใช้ในสเปน โดยขอแนะนำให้ซื้อ SIMS โทรศัพท์มือถือเฉพาะจากบริษัทให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ที่เป็นที่ได้รับ การยอมรับแพร่หลาย อาทิ Movistar, Orange หรือ Vodafone และอย่าซื้อ บัตรโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศที่ไม่เป็นที่รู้จัก อาทิ บัตรโทรศัพท์ทางไกลที่ขายที่สนามบิน
ความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน
สืบเนื่องจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจของสเปน กอปรกับจำนวนบุคลากรที่ดูแลรักษา ความปลอดภัยมีจำกัด สเปนจึงไม่ใช่ประเทศที่ปลอดภัยสูงเช่นเมื่อก่อน โดยพบว่ามีการรายงานข่าวคดีอาชญากรรมอยู่เรื่อยๆ นอกจากนี้ สืบเนื่องจากมาตรการทางกฎหมายของสเปน ทางการสเปนจะไม่ติดตามดำเนินคดีกับการโจรกรรมที่มูลค่าของสิ่งของที่ถูก โจรกรรมไม่เกิน 400 ยูโร ดังนั้น ปัญหาโจรกรรมในสเปนจึงเพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงปีที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวมักจะถูกปล้นทรัพย์ และลักขโมยหนังสือเดินทางบ่อยครั้งในขณะเดินทางท่องเที่ยวในสเปน
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ได้รับรายงานว่า ในกรุงมาดริด มีคดีทำร้ายร่างกาย ลักขโมย ปล้นทรัพย์ ฉกชิงวิ่งราวกระเป๋าเอกสาร กระเป๋าเดินทางขนาดเล็ก กระเป๋าถือสุภาพสตรี กล้องถ่ายรูป กล้องถ่ายวีดีโอ และโทรศัพท์มือถือ ในบริเวณ Puerta del Sol บริเวณ Palacio Real Plaza Oriente บริเวณ Gran Via ย่านเขต Lavapies บริเวณตลาดนัดวันหยุด El Rastro บริเวณสถานี metro ของ Santiago Bernabeu, Sol, Atocha, Plaza Espana, Colon และ Gran Via รวมทั้ง มีรายงานเพิ่มเติมว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้จังหวะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ทันระมัดระวังตัว วิ่งเข้ามาขโมยปลดเลนส์กล้องถ่ายรูปและวิ่งหนีไป
ในนครบาร์เซโลนา มีรายงานว่า มีการล้วงกระเป๋า และการฉกชิงวิ่งราวทรัพย์สินนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะบริเวณ ถนน Las Ramblas, บริเวณ Plaza de Catalunya บริเวณโดยรอบ Sagrada Familia บริเวณ Barrio Gotico และบริเวณทางลงและชานชาลาสถานี metro ในย่านสถานที่ท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวควรระมัดระวังอย่างยิ่งในการเดินเล่นตามถนน Las Ramblas และตลาด Boqueria ในยามค่ำคืน ซึ่งเป็นแหล่งมั่วสุมของกลุ่มโสเภณีมิจฉาชีพ ซึ่งจะใช้วิธีหว่านล้อม และล่อหลอกให้เหยื่อไปใช้บริการทางเพศ และหากเหยื่อไม่ไปด้วยก็จะใช้มีดข่มขู่ชิงทรัพย์
นอกจากนี้ ขอให้นักท่องเที่ยวควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เมื่อไปชมการแสดงและเทศกาลต่างๆ ตามท้องถนนของสเปน อาทิ ขบวนแห่พิธี Easter หรือ Semana Santa เทศกาล Las Fallas และเทศกาลปามะเขือเทศ “la Tomatina” ที่แคว้นวาเลนเซีย เทศกาล San Fermin ที่แคว้นนาวารา
กลุ่มมิจฉาชีพชิงทรัพย์ในสเปน มักดำเนินการเป็นกลุ่มหรือขบวนการ โดยจะใช้วิธีการหลอกให้เหยื่อตายใจ อาทิ แต่งกายเรียบร้อยสวยงามเข้ามาทักทาย เข้ามาถามทาง เข้ามาถามเวลา เข้ามาขอแลกเงิน เข้ามาขอบุหรี่ เข้ามาขอให้ถ่ายรูปให้ เข้ามาขอเรี่ยรายบริจาคเงินให้องค์กรการกุศล (ที่ไม่มีอยู่จริง) เข้ามาขายผ้าคลุมไหล่ เพื่อนำผ้าคลุมไหล่มาทาบกับตัวนักท่องเที่ยวและล้วงกระเป๋า จนถึงแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงบัตรตำรวจปลอมเพื่อขอตรวจดู หนังสือเดินทาง บัตรประจำตัวตลอดจนขอตรวจค้นยาและสารเสพติด และทำการค้นกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าถือ หรือกระเป๋าเดินทางของนักท่องเที่ยว เพื่อขโมยเงิน หนังสือเดินทาง หรือสิ่งของมีค่าอย่างแนบเนียน นอกจากนี้ มิจฉาชีพสเปนได้ใช้วิธีการฉกชิงวิ่งราวทรัพย์สินโดยใช้ความอุกอาจและกำลังใน ถนนหรือสถานที่เปลี่ยวไม่มีผู้คนสัญจร อาทิ ฉกชิงวิ่งราวกระเป๋าถือสุภาพสตรีหรือกระเป๋าเดินทาง เดินประกบเหยื่อและข่มขู่ให้ส่งทรัพย์สินให้ ทุบตีศีรษะและชิงทรัพย์
สำหรับการใช้บริการรถแท็กซี่ แท็กซี่ในสเปนเกือบทั้งหมดเป็นแท็กซี่มิเตอร์ และสามารถออกใบเสร็จให้ได้ ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวใช้บริการแท็กซี่ในคิวที่ท่าอากาศยานและสถานีรถไฟ และหากไม่มั่นใจว่าจะสามารถสื่อสารกับแท็กซี่เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาสเปนได้ อาจขอให้ขอโรงแรมที่พักให้เรียกรถแท็กซี่สำหรับการเดินทางสัญจรในเมืองใหญ่ โดยโรงแรมจะคิดค่าบริการเรียกแท็กซี่เพิ่มเติมบางส่วน ทั้งนี้ ในหลายเมืองในสเปน เมื่อเิดินทางถึงจุดหมาย แท็กซี่จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมกระเป๋า-สัมภาระ จากผู้โดยสารที่ขนกระเป๋าและสัมภาระบรรทุกขึ้นรถแท็กซี่ เพิ่มจากค่าบริการตามปกติ นอกจากนี้ ตามกฎหมายและธรรมเนียมปฏิบัติโดยทั่วไป แท็กซี่สเปนจะไม่เรียกเก็บค่าบริการอื่น
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวไทยใช้ความระมัดระวังทรัพย์สินในขณะเดินทางท่องเที่ยวในสเปนดังนี้
1. ควรเก็บหนังสือเดินทาง และบัตรเครดิตการ์ด แยกกับกระเป๋าสตางค์ที่บรรจุเงินสด เนื่อง จากกฎหมายสเปนเข้มงวดกับการใช้บัตรเครดิตการ์ดซื้อสินค้า/บริการ ว่า ผู้ใช้ต้องแสดงบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่าย ดังนั้น กลุ่มมิจฉาชีพจึงเน้นการขโมยเงินสดมากกว่าบัตรเครดิตการ์ด อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า กลุ่มมิจฉาชีพในสเปนได้นำหนังสือเดินทางไทยที่โจรกรรมไปจำหน่ายให้แก่กลุ่ม อาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งทางการตำรวจไทยและสเปนต่างก็อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนกวาดล้างอยู่ใน ขณะนี้ จึงขอให้ระมัดระวังและเก็บรักษาหนังสือเดินทางไว้ให้ดีด้วย
2. ควรถ่ายสำเนาหนังสือเดินทางและเอกสารจำเป็นอื่นๆ และแยกเก็บไว้ และควรพกรูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว จำนวน 3-5 ใบ เผื่อ ในกรณีถูกขโมยหนังสือเดินทางจะได้สามารถติดต่อแจ้งความต่อสถานีตำรวจสเปน และขอรับเอกสารเดินทางชั่วคราวทดแทนหนังสือเดินทางที่สูญหายได้ที่สถาน เอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด
ในกรณีที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางไปยังประเทศอื่นทั้งในและนอกเขต Schengen visa ขอแนะนำให้สำเนาหน้า visa sticker ที่ได้รับและแยกเก็บไว้ด้วย หรือหากเป็นผู้ที่มีบัตรประจำตัวผู้มีถิ่นที่อยู่ (Resident card, Green card) หรือบัตรประจำตัวนักศึกษาต่างชาติ (student resident card) ของประเทศที่จะต้องเดินทางไปต่อจากสเปน ขอให้สำเนาแยกไว้เช่นกัน ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการขอรับการตรวจลงตราใหม่ หากหนังสือเดินทางถูกขโมยหรือสูญหาย
3. ควรระมัดระวังทรัพย์สินตลอดเวลาที่ท่องเที่ยวในสเปน สุภาพ บุรุษไม่ควรพกกระเป๋าสตางค์หรือสิ่งของมีค่าไว้ในกระเป๋ากางเกงด้านหลัง สุภาพสตรีไม่ควรวางกระเป๋าถือไว้ตามเก้าอี้ โต๊ะ ห้องน้ำร้านอาหาร ห้องน้ำโรงแรม หรือที่นั่งพักผ่อนในสวนสาธารณะโดยไม่ได้ระมัดระวัง รวมทั้ง ไม่ควรทิ้งกระเป๋าถือ/กระเป๋าเอกสารหรือกระเป๋าเดินทางไว้โดยไม่ได้เฝ้า ระวังในขณะรับประทานอาหารเช้าในห้องอาหารโรงแรม ล๊อบบี้โรงแรม ตามร้านอาหาร ตามสถานีรถไฟ สถานทีรถไฟฟ้าใต้ดิน Metro สถานีรถประจำทาง หรือด้านหน้า counter check in ในท่าอากาศยานสนามบินในสเปน และไม่ควรนำสิ่งของมีค่าบรรจุ ในกระเป๋าเดินทางที่จะ check in ไปใต้ท้องเครื่องบิน
4. ไม่ควรสวมใส่เครื่องประดับของมีค่าให้เป็นที่สะดุดตา อาทิ สร้อยคอ แหวน ตุ้มหู หรือเครื่องประดับมีค่าที่สะดุดตาอื่นๆ หรือพกพาสิ่งของมีค่าอย่างเปิดเผย อาทิ โทรศัพท์มือถือราคาแพง กล้องถ่ายวีดีโอ กล้องถ่ายภาพราคาแพง เนื่องจากอาจเป็นสิ่งล่อตาล่อใจกลุ่มมิจฉาชีพ
5. ควรใช้ความระมัดระวังในการเดินทางสัญจรในเส้นทางหรือช่วงเวลาที่เปลี่ยวผู้คน อาทิ ช่วงเช้าก่อน 08.00 น. ในวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือผ่านเส้นทางตรอกซอยของบริเวณเขตหรือย่านเมืองเก่า (Casco antiguo) ของเมืองต่างๆ ในสเปน หรือผ่านเส้นทางสวนสาธารณะซึ่งมักเป็นที่พักของกลุ่มคนจรจัดและมิจฉาชีพ
6. หากนักท่องเที่ยวไทยเช่ารถยนต์ขับท่องเที่ยวในสเปน ไม่ควรทิ้งสิ่งของใดๆ (ไม่จำกัดว่าเป็นของมีค่าหรือไม่) ไว้ภายในรถยนต์ เนื่อง จากจะเสี่ยงต่อการถูกทุบกระจกและชิงทรัพย์ โดยควรเก็บสิ่งของและสัมภาระทั้งหมดไว้ในช่องเก็บของด้านหน้าหรือท้ายรถให้ มิดชิด และควรล็อกประตูรถยนต์และล็อกพวงมาลัยรถยนต์ทุกครั้ง และควรจอดรถยนต์ในพื้นที่ซึ่งมีไฟถนนสว่าง มีชุมชนหรือผู้คนสัญจรไปมา หรือเป็นที่จอดรถยนต์ที่มีระบบรปภ.
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยว ควรใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ ใช้เข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้โดยสารข้างหน้าข้างคนขับ และไม่ขับขี่เกินกำหนดความเร็ว 120 กม./ชม.ในถนนทางหลวงระหว่างเมือง และไม่เกิน 40 กม./ชม.ในบริเวณเมือง และให้เคารพกฎกติกาว่าด้วยการจอดรถยนต์ตามเมืองต่างๆ รวมทั้ง ไม่ขับขี่รถยนต์โดยมีอาการมึนเมา ซึ่งมีโทษต้องปรับตามกฎหมายสเปน
7. หากถูกล้วงกระเป๋าหรือถูกกลุ่มมิจฉาชีพฉกชิงทรัพย์ ไม่ควรพยายามตอบโต้กลุ่มมิจฉาชีพ เนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพในสเปนจะดำเนินการเป็นขบวนการ และอาจเสี่ยงต่อการถูกทำร้ายร่างกาย
8. ในกรณีที่ตกทุกข์ หรือหนังสือเดินทางสูญหายหรือถูกโจรกรรม ฉกชิงวิ่งราว ขอให้ดำเนินการดังนี้
8.1. ถ้า ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกชิงทรัพย์ หรือถูกปล้นทรัพย์ สามารถโทรไปติดต่อตำรวจสเปนได้ที่หมายเลขฉุกเฉิน 112 หรือ 091 หรือ 902 102 112 ถ้าถูกขโมยหนังสือเดินทาง ให้เดินทางไปแจ้งความด้วยตนเอง ที่สถานีตำรวจสเปนที่ใกล้จุดเกิดเหตุที่สุด
เวปไซต์ตำรวจสเปน www.policia.es/consejos/turismo_en.html
เวปไซต์แนะนำสถานีตำรวจและมาตรการดูแลความปลอดภัยในนครบาร์เซโลนาและแึคว้นคาตาลุนญา่ www.20gencat.cat/portal/site/mossos
8.2. เมื่อได้รับใบแจ้งความแล้ว อาจติดต่อแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุล ของสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อแจ้ง/นัดหมายเวลาที่จะเข้ามาดำเนินการทำหนังสือเดินทางหรือเอกสารเดิน ทางชั่วคราว ตามที่อยู่ Calle Joaquin Costa 29, Madrid 28002 โทร. (34) 915632903 หรือ 915637959 หรือ914115113 Email:madthai@temb.telefonica.e.net โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ เปิดทำการทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดราชการของสเปนและไทย) ตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น.
8.3. เดินทางมายังสถานเอกอัครราชทูตฯ ด้วยตนเองพร้อม เอกสารสำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนไทย และสำเนาใบแจ้งความ พร้อมรูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว จำนวน 4 ใบ เพื่อกรอกข้อมูลและลงนามในใบคำร้อง เพื่อขอหนังสือเดินทางชั่วคราว/เอกสารเดินทางชั่วคราว หรือดำเนินการอื่นๆ ซึ่งใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1 วันทำการ
8.4. ภาย หลังจากที่ได้รับเอกสารเดินทางชั่วคราวจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริดแล้ว หากนักท่องเที่ยวที่ไม่ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย หรือเดินทางท่องเที่ยวในสเปนต่อ แต่ประสงค์เดินทางไปยังประเทศใน Schengen อื่นๆ หรือนอกเขต Schengen นักท่องเที่ยวจะต้องดำเนินการขอรับการตรวจลงตราจากประเทศที่ประสงค์จะเดินทางไปด้วยตนเอง โดยนำหนังสือเดินทางชั่วคราวไปยื่นต่อสถานเอกอัครราชทูตของประเทศที่จะเดินทางไป เพื่อขอรับการตรวจลงตราใหม่ ทั้งนี้ ผลการพิจารณาการตรวจลงตราครั้งใหม่หรือระยะเวลาการขอรับการตรวจลงตราขึ้น อยู่กับดุลยพินิจของสถานเอกอัครราชทูตแต่ละประเทศที่เกี่ยวข้องแต่เพียง อย่างเดียว สถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือเร่งรัดหรือแก้ไขผลการพิจารณาได้
ขอบคุณข้อมูลน่ารู้จาก สถานเอกอัครราชฑูตไทย ณ กรุงมาดริด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น