Teddy House บ้านหมีน่ารัก พิพิธภัณฑ์บ้านหมีที่ดอร์เซต

วันนี้ขอแนะนำพิพิธภัณฑ์บ้านหมี – Dorset Teddy Bear Museum แห่งดอร์เชสเตอร์ เมืองทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ ซึ่งอุทิศบ้านแบบโบราณทั้งหลังให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ตุ๊กตาหมี สำหรับเด็ก ๆ และผู้รักตุ๊กตาหมี ได้เข้าไปเยี่ยมชมหาความเพลิดเพลินใจกัน

ที่นี่ มี ตุ๊กตาหมี หลายร้อยตัว ทั้งตุ๊กตาหมีโบราณ ที่ทำกันเมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนจนถึงตุ๊กตาหมีแบบที่นิยมกันในปัจจุบัน

จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์ บ้านตุ๊กตาหมี แห่งนี้ คือตุ๊กตาหมีตัวโตเท่าคนหลายสิบตัว ที่อยู่ในอิริยาบทต่าง ๆ กัน เช่น กำลังนั่งเล่นดนตรี ดื่มกาแฟ อยู่ในห้องนอน อยู่ในห้องนั่งเล่น เป็นต้น โดยแต่งตัวในเสื้อผ้าชุดต่าง ๆ ตามบรรยากาศของแต่ละห้อง ทำให้ผู้เข้าชมพากันไปถ่ายรูปคู่กับตุ๊กตาหมีตัวเท่าคนเหล่านี้กันอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะเด็ก ๆ บางคนขึ้นไปนั่งบนตักของตุ๊กตาหมีเพื่อถ่ายรูปก็มี

อังกฤษมี ตุ๊กตาหมี ที่มีชื่อเสียงจากนิทานสำหรับเด็กอยู่หลายตัว พิพิธภัณฑ์ บ้านหมีจัดการแสดง ตุ๊กตาหมี เหล่านี้เป็นส่วน ๆ แยกกันออกไป โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง เอ็ดเวิร์ดแบร์ (Edward’s Bear) ซึ่งเป็นชื่อเดิมของ วินนี่เดอะพูห์ ที่คนอังกฤษรู้จักกันในชื่อเดิมมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้ ยังมี แพดดิงตันแบร์ ซึ่งเป็นตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลที่ชอบใส่เสื้อโค้ต สวมหมวกไม่มีทรง รวมทั้ง รูเพิร์ตแบร์ (Rupert Bear) เจ้าหมีสีขาว ใส่เสื้อแขนยาวสีแดง กางเกงและผ้าพันคอตาหมากรุกสีเหลือง ซึ่งเริ่มต้นจากเป็นการ์ตูนช่องในหนังสือพิมพ์รายวัน มาเป็นนิทานสำหรับเด็กเกี่ยวกับเรื่องราวการผจญภัยของเจ้าหมีรูเพิร์ต ที่มีอายุยืนยาวมากว่า 80 ปี

หลังจากได้ชมพิพิธภัณฑ์ เท็ดดี้เฮ้าส์ บ้านหมีน่ารัก กันอย่างเต็มอิ่ม แล้ว เด็กและผู้ใหญ่ก็ยังสามารถหาซื้อตุ๊กตาหมียี่ห้อดัง ๆ ของโลก ติดไม้ติดมือกลับไปบ้านได้ด้วย เช่น Steiff Teddy Bear, Robin Rive, Merrythought, Dean's, Cotswold Co, Gund เป็นต้น

พิพิธภัณฑ์ ที่นี่เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด ระหว่าง 10 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น

อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม ลองแวะดูเวบไซต์ได้ที่นี่ http://www.teddybearhouse.co.uk/

Teddy Bear House บ้านตุ๊กตาหมีอยู่ที่นี่

เรียบเรียงโดย พลากร จิรโสภณ - FourBears

ขอขอบคุณแหล่งที่มาจาก http://www.fourbears2002.com/index.php?option=com_content&view=article&id=84:teddy-house---&catid=1&Itemid=34

อำนาจทางจิตวิทยาของเท็ดดี้แบร์♥

ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์เป็นเครื่องมืออันน่าพิศวงในการดูแลสุขภาพจิตของคนเรา ลองสำรวจภายในบ้านของเราเอง หรือแม้กระทั่งเพื่อนบ้านคนอื่น จะเห็นว่าแทบทุกบ้านต้องมีตุ๊กตาหมี หรือไม่ก็เป็นของใช้ที่มีสัญญลักษณ์ตุ๊กตาหมีติดอยู่

เหตุใดตุ๊กตาหมีจึงมีอิทธิพลทางจิตใจได้มากถึงเพียงนี้? ทำไม เพียงแต่คิด ตุ๊กตาหมีก็สามารถสร้างรอยยิ้มบนใบหน้าของเราได้ ตุ๊กตาหมี เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน คนจำนวนมากมายสะสมตุ๊กตาหมีตั้งแต่เด็กจนเป็นผู้ใหญ่ มีสินค้าตุ๊กตาหมีใหม่ ๆ น่ารักน่ากอดออกมาให้เราเลือกสะสมอยู่ตลอดเวลา นี่เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ หากตระหนักว่าตุ๊กตาหมีเทดดี้ มีอำนาจทางจิตวิทยาต่อคนเราอย่างไร

ประการแรก ตุ๊กตาหมีเป็นสัญญลักษณ์ของความไร้เดียงสาแบบเด็ก ๆ ทำให้เรานึกถึงความน่ารักน่าเอ็นดู และความห่วงใยที่เด็ก ๆ ได้รับ เท็ดดี้แบร์คือตัวแทนของห้วงเวลาแห่งการทะนุถนอมในขณะที่อยู่ในวัยเด็ก เราทุกคนต่างมีความเป็นเด็กอยู่ในตัวตน แม้ว่าจะได้ผ่านพ้นวัยนั้นกันมาแล้ว ไม่ว่าเราจะมีความรับผิดชอบในหน้าที่การงานสูงสักเพียงไหน แต่ทุกคนก็ยังอยากจะมีเวลาสักช่วง ที่จะได้ปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากภารกิจที่วุ่นวายเหล่านั้น และความเป็นเด็กในตัวของเรา ก็ยังทำให้เราอยากได้ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ไว้กอด ไม่ต่างจากเมื่อยังอยู่ในวัยเด็ก

ประการที่สอง ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ ทำให้ระลึกถึงบุคคลพิเศษ ที่รักและห่วงใยในตัวเรา ผู้ที่มอบตุ๊กตาหมีตัวโปรดเป็นขวัญกับเรา เทดดี้แบร์ช่วยให้ระลึกที่ความสุขจากความรักที่ได้รับ เทดดี้แบร์ไม่ใช่สัญญลักษณ์ทางเพศ หากเป็นสัญญลักษณ์แห่งความรัก ช่วยเตือนความทรงจำให้นึกถึงบางคน ที่รักและห่วงใยในตัวเราเสมอ การทดสอบทางจิตวิทยา พิสูจน์ถึงผลลัพท์ในทางบวกที่เทดดี้แบร์มีต่ออารมณ์ความรู้สึกของคนเรา ความรักและความห่วงใย คือสิ่งจำเป็นที่สำคัญทางจิตวิทยาต่อการดำเนินชีวิตของคน แม้แต่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ในสหรัฐอเมริกา ก็ใช้ตุ๊กตาหมีเป็นเครื่องปลอบใจครอบครัวผู้ประสบภัย ให้มีความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยมากขึ้น ตุ๊กตาหมีจึงเป็นตัวแทนของความรักและห่วงใยที่เป็นสากล ไม่ว่าสำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่ หญิงหรือชาย เชื้อชาติใดก็ตาม

ประการที่สาม ตุ๊กตาหมี ถูกใช้เป็นของขวัญในโอกาสพิเศษต่าง ๆ ดังนั้น เทดดี้แบร์ จึงเสมือนขุมทรัพย์แห่งความทรงจำ เพื่อเตือนให้ระลึกถึงเหตุการณ์พิเศษที่ผ่านมา อาจเป็นของขวัญในโอกาสวันเกิด หรือของขวัญจากพ่อแม่ขณะที่ยังอยู่ในวัยเด็กหรือวัยรุ่น กระทั่งเป็นของขวัญในวันแม่ที่ลูกมอบให้ ดังนั้น ทุกครั้งที่ได้โอบกอดตุ๊กตาหมี ก็จะทำให้หวนรำลึกถึงผู้ที่มอบให้เสมอ อารมณ์แห่งความอุ่นใจ จะบังเกิดแก่ผู้ที่ได้โอบกอด คุณค่าทางใจของขุมทรัพย์แห่งความทรงจำนี้ มีคุณค่าใหญ่หลวงยิ่ง ความทรงจำแห่งความรักและอบอุ่นนี้ได้ระบายสีสันแห่งความสุขให้กับโลก สร้างแรงใจให้มีกำลังฟันฝ่าอุปสรรคความยากลำบากต่าง ๆ ให้พ้นผ่านไปได้

ประการที่สี่ คือ อำนาจทางจิตของการสัมผัสความอ่อนนุ่ม, ความน่ากอดและความอบอุ่นของตุ๊กตาหมีเทดดี้ มาจากสัมผัสที่อ่อนนุ่มของมัน ในทางจิตวิทยา มนุษย์ล้วนมีความต้องการการสัมผัส การที่เราได้จับสิ่งที่อ่อนนุ่ม จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย การโอบกอดสิ่งที่อ่อนนุ่มทำให้รู้สึกพึงพอใจ การกอดตุ๊กตาหมีจึงเกิดความผ่อนคลายจากความตึงเครียด การมีเวลากับเทดดี้แบร์เพียงเล็กน้อย ก็สามารถลดความดันโลหิตลงไปในตัวคุณได้ ทำให้มีการหลั่งของสารเอ็นดอร์ฟิน (สารที่หลั่งมาจากต่อมใต้สมอง ช่วยให้มีจิตใจเบิกบาน คลายความเจ็บปวด) และยังทำให้จิตใจมีความสงบในชั่วขณะ

น่าอัศจรรย์ที่ตุ๊กตาหมี เป็นเพียงของขวัญ และเป็นตุ๊กตารูปสัตว์หนึ่งเดียว ที่ทำให้คนเรามีความสุขทางใจได้มากถึงเพียงนี้ ตุ๊กตาหมีจึงเป็นสิ่งพิเศษสำหรับโลกอันยุ่งเหยิงใบนี้ มันได้พิสูจน์แล้วว่า ตุ๊กตาหมีมีประโยชน์ในทางจิตใจมากมายหลายประการ

แล้ววันนี้คุณกอดตุ๊กตาหมีหรือยัง ?

เรียบเรียงจากบทความเรื่อง Four Psychological of Teddy Bears โดย Priscilla V. Marotta
แปลเป็นภาษาไทยโดย FourBears

ขอขอบคุณแหล่งที่มาจากเว็บไซต์ : http://www.fourbears2002.com/index.php?option=com_content&view=article&id=94&catid=1&Itemid=34

กระเทียม สรรพคุณและประโยชน์ของกระเทียม 49 ข้อ !

กระเทียม
กระเทียม ชื่อสามัญ Garlic

กระเทียม ชื่อวิทยาศาสตร์ คือคำว่า Allium sativum L. จัดอยู่ในวงศ์พลับพลึง (AMARYLLIDACEAE) และอยู่ในวงศ์ย่อย ALLIOIDEAE (ALLIACEAE)

สำหรับในประเทศไทยนิยมปลูกมากในทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่สำหรับกระเทียมที่ขึ้นชื่อที่มีคุณภาพดี กลิ่นฉุนคงหนีไม่พ้นจังหวัดศรีษะเกษ

สรรพคุณของกระเทียม
กระเทียมประโยชน์ของกระเทียม ช่วยบำรุงผิวหนังให้มีสุขภาพดีและแข็งแรง
ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย
ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และน้ำตาลในเลือด
ประโยชน์กระเทียม ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย
ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ อาการมึนงง ปวดศีรษะ หูอื้อ
ช่วยในเรื่องระบบสืบพันธุ์และระบบทางเดินปัสสาวะ เพราะมีสารที่ช่วยควบคุมฮอร์โมนทั้งหญิงและชาย ช่วยทำให้มดลูกบีบตัว เพิ่มพละกำลังให้มีเรี่ยวแรง
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิต
ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงของหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
ช่วยต่อต้านเนื้องอก
กระเทียม ประโยชน์ช่วยแก้ปัญหาผมบาง ยาวช้า มีสีเทา
ช่วยป้องกันการเกิดและรักษาโรคโลหิตจาง
ช่วยในการขับพิษ และสารพิษอันตรายที่ปนเปื้อนในเม็ดเลือด
กระเทียมสรรพคุณช่วยป้องกันผนังหลอดเลือดหนาและแข็งตัว
สารสกัดน้ำมันกระเทียม มีสารที่มีส่วนช่วยในการละลายลิ่มเลือด
ช่วยป้องกันการเกิดเส้นเลือดอุดตัน
มีสารต่อต้านไม่ให้เม็ดเลือดแดงแตก
ช่วยบรรเทาอาการไอ น้ำมูกไหล ป้องกันหวัด
ช่วยรักษาโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
ช่วยรักษาอาการเยื่อบุจมูกอักเสบ และไซนัส
ช่วยรักษาโรคไอกรน
สรรพคุณ กระเทียมช่วยแก้อาการหอบ หืด
ช่วยรักษาโรคหลอดลม
ช่วยระงับกลิ่นปาก
ช่วยในการขับเหงื่อ
สรรพคุณของกระเทียมช่วยในการขับเสมหะ
ช่วยควบคุมโรคกระเพาะ ด้วยสารที่ช่วยยับยั้งไม่ให้น้ำย่อยอาหารมาย่อยแผลในกระเพาะ
มีสรรพคุณช่วยในการขับลม
ช่วยรักษาอาการจุกเสียดแน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ
ช่วยป้องกันโรคท้องผูก
ช่วยรักษาโรคบิด
กระเทียบ สรรพคุณช่วยในการขับปัสสาวะ
ช่วยในการขับพยาธิได้หลายชนิด เช่น พยาธิแส้ม้า พยาธิเส้นด้าย พยาธิเข็มหมุด พยาธิไส้เดือน เป็นต้น
ช่วยรักษาโรคตับอ่อนอักเสบชนิดรุนแรงได้
ช่วยป้องกันการเกิดโรคไต
ช่วยฆ่าเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ รวมถึงเชื้อราตามหนังศีรษะและบริเวณเล็บ
ช่วยยับยั้งเชื้อต่าง ๆ เช่น เชื้อที่ทำให้เกิดฝีหนอง คออักเสบ เชื้อปอดบวม เชื้อวัณโรค เป็นต้น
ช่วยกำจัดพิษจากสารตะกั่ว
ช่วยรักษากลาก เกลื้อน
ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อ บำรุงข้อต่อและกระดูกในร่างกาย
บรรเทาอาการปวดข้อและปวดเมื่อยตามร่างกาย
ช่วยแก้อาการเคล็ดขัดยอกและเท้าแพลง เพราะมีสารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดมายังบริเวณที่นวดยาได้ดีมากขึ้นนั่นเอง
มีสารต้านอาการไขข้ออักเสบ โรคข้อรูมาติสม์
กระเทียมมีกลิ่นฉุนจึงสามารถช่วยไล่ยุงได้เป็นอย่างดี
ช่วยกระตุ้นน้ำย่อย เพิ่มความยากอาหาร
advertisements


ประโยชน์ของกระเทียม
ประโยชน์หลัก ๆ ของกระเทียมคงหนีไม่พ้นการนำมาใช้เพื่อช่วยปรุงรสชาติของอาหาร ไม่ว่าจะใช้ผัด แกง ทอด ยำ ต้มยำ หรือน้ำพริกต่าง ๆ อีกสารพัด
กระเทียมเป็นเครื่องสมุนไพรที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด และยังเป็นพืชที่ธาตุซีลีเนียมสูงกว่าพืชชนิดอื่น ๆ อีกทั้งยังมีสารอะดิโนซีน (Adenosine) ซึ่งเป็นกรดนิวคลีอิกที่เป็นตัวสร้าง DNA และ RNA ของเซลล์ในร่างกาย
นอกจากนี้ยังมีการนำกระเทียมไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่างหลากหลาย เช่น กระเทียมเสริมอาหาร กระเทียมสกัดผง สารสกัดน้ำมันกระเทียม กระเทียมดอง เป็นต้น
คุณค่าทางโภชนาการของกระเทียมดิบ ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 149 กิโลแคลอรี่
คาร์โบไฮเดรต 33.06 กรัม
น้ำตาล 1 กรัม
เส้นใยอาหาร 2.1 กรัม
ไขมัน 0.5 กรัม
โปรตีน 6.36 กรัม
วิตามินบี1 0.2 มิลลิกรัม 17%
วิตามินบี2 0.11 มิลลิกรัม 9%
วิตามินบี3 0.7 มิลลิกรัม 5%
วิตามินบี5 0.596 มิลลิกรัม 12%
วิตามินบี6 1.235 มิลลิกรัม 95%
วิตามินบี9 3 ไมโครกรัม 1%
วิตามินซี 31.2 มิลลิกรัม 38%
ธาตุแคลเซียม 181 มิลลิกรัม 18%
ธาตุเหล็ก 1.7 มิลลิกรัม 13%
ธาตุแมกนีเซียม 25 มิลลิกรัม 7%
ธาตุแมงกานีส 1.672 มิลลิกรัม 80%
ธาตุฟอสฟอรัส 153 มิลลิกรัม 22%
ธาตุโพแทสเซียม 401 มิลลิกรัม 9%
ธาตุสังกะสี 1.16 มิลลิกรัม 12%
ธาตุซีลีเนียม 14.2 ไมโครกรัม
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (แหล่งที่มา : USDA Nutrient database)

คำแนะนำและข้อควรระวังในการใช้กระเทียม
กระเทียมยิ่งสดเท่าไหร่ก็ยิ่งมีสรรพคุณที่ดีมากขึ้นเท่านั้น แต่สำหรับกระเทียมที่ผ่านความร้อนด้วยวิธีการต่าง ๆ หรือผ่านการหมักดอง จะทำให้วิตามินและสารอัลลิซินที่มีอยู่ในกระเทียมนั้นสลายตัวไป
วิตามินและแร่ธาตุที่อยู่ในกระเทียมนั้น จะมีมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับดินและสภาพอากาศที่ใช้ในการเพาะปลูกอีกด้วย
สำหรับหญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดเป็นปกติ มีระดับความดันโลหิตเป็นปกติ ผู้ที่มีอาการของเลือดหยุดไหลช้า รวมไปถึงผู้ที่ใช้ยาอื่น ๆ เป็นประจำ เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแอสไพริน ยาแก้อักเสบ ยาต้านไวรัส คุณไม่ควรรับประทานกระเทียมหรือผลิตภัณฑ์กระเทียมเสริมในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เป็นโทษต่อร่างกายได้
สำหรับที่ได้รับกลิ่นของกระเทียมเป็นประจำ อาจทำให้เกิดอาการแพ้กระเทียมเมื่อรับประทานได้ โดยอาจจะมีอาการคลื่นไส้ และมีอาหารหัวใจที่เต้นแรงผิดปกติ แต่อาการดังกล่าวจะค่อย ๆ หายไปเองภายในเวลา 3-4 ชั่วโมง ซึ่งกระเทียมที่นำมาใช้ในการประกอบอาหารมักจะก่อให้เกิดอาการแพ้ได้น้อยกว่ากระเทียมแบบสด ๆ
สำหรับผู้ที่อยู่ในครัวหรือผู้ต้องใช้มือสัมผัสกับกระเทียมเป็นประจำและเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้ผิวหนังเกินการอักเสบมีตุ่มน้ำได้ ดังนั้นคุณควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกระเทียมโดยตรงเป็นประจำด้วยการสวมถึงมือทุกครั้งในขณะที่จะใช้กระเทียม
แม้ว่ากระเทียมจะเป็นพืชที่มีสรรพคุณอยู่มากมาย แต่คุณก็ไม่ควรที่จะเลือกใช้กระเทียมเพื่อหวังผลในการรักษาอาการหรือโรคใดโรคหนึ่ง อีกทั้งผลลัพธ์ที่ได้ในแต่ละบุคคลก็อาจจะแตกต่างกันออกไป ดังนั้นคุณควรเลือกรับประทานให้หลากหลายและครบ 5 หมู่ จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะพืชผักสมุนไพรทั่ว ๆ ไป ถ้าศึกษากันจริง ๆ แล้ว มันก็มีประโยชน์ไม่น้อยไปกว่ากันเลย
ปัจจุบันในบ้านเรายังไม่มีการรับรองว่ากระเทียมนั้นจะสามารถรักษาโรคได้จริง คงเป็นได้เพียงแต่สมุนไพรทางเลือกในการรักษาและสมุนไพรเสริมสุขภาพเท่านั้น